วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

ร้อนนี้..มาดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรคลายร้อนกัน

น้ำดื่มสมุนไพรช่วยคลายร้อน
--------------------------------------------------------------------------------

หลายคนบอกว่า ฤดูร้อนปีนี้อากาศร้อนมากๆ จะไปไหนก็เจอแต่ไอแดดและไอร้อน แม้จะนั่งอยู่เฉยๆ ในบ้านก็ยังได้รับไอร้อน หลายๆ คนบอกว่าอากาศร้อนอย่างนี้ทำให้ไม่อยากรับประทานอะไรเลย นึกถึงแต่น้ำและน้ำแข็ง ที่จะมาช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลงได้บ้าง
เมื่อนึกอากาศร้อน หลายคนจะนึกถึงเครื่องดื่มนานาชนิดที่ทำให้ “ชื่นใจ” น้ำดื่มสมุนไพรหน้าร้อนจึงเหมาะต่ออากาศในยามนี้อย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยดับกระหายคลายร้อนแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายอย่าง

วันนี้จึงขอนำวิธีทำเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีคุณสมบัติข้างต้นมาฝากกัน บอกได้เลยว่าเป็นสมุนไพรที่หาง่าย ราคาถูก และวิธีทำก็ง่าย
น้ำกระเจี๊ยบ นอกจากจะช่วยแก้กระหายน้ำและทำให้สดชื่นแล้ว น้ำกระเจี๊ยบยังช่วยขับปัสสาวะ แก้นิ่ว ช่วยย่อยอาหาร และเป็นยาระบายอ่อนๆ แถมยังช่วยลดไข้และแก้ไอได้อีกด้วย


น้ำกระเจี๊ยบมีส่วนผสมคือ กลีบดอกกระเจี๊ยบแดงสด หรือแห้ง (ใช้ได้ทั้งสองชนิด) น้ำเปล่า 5 ถ้วย เกลือป่นและน้ำตาลทรายแดงตามชอบใจ ส่วนวิธีทำนั้นก็แสนง่าย กล่าวคือ นำกลีบดอกกระเจี๊ยบมาล้างให้สะอาดแล้วใส่ลงในหม้อ ต้มไปเรื่อยๆ จนเนื้อกระเจี๊ยบนุ่ม จากนั้นให้กรองเอาเนื้อออก แล้วนำน้ำกระเจี๊ยบมาต้มไฟอ่อนๆ ต่อไป จากนั้นให้นำเกลือและน้ำตาลใส่ลงไปตามชอบใจ รอจนน้ำตาลละลายดีแล้วยกลงจากเตาไฟ ตักใส่ขวดแช่เย็นไว้ดื่มยามกระหาย

ปัจจุบันนี้ มีคนนิยมนำกลีบดอกกระเจี๊ยบแดงมาชงเป็นชาสมุนไพร โดนการหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตากแดดหรืออบให้แห้ง เก็บไว้ในกระป๋องที่ปิดฝาสนิท แล้วนำมาชงเหมือนการชงชาทั่วไป

น้ำเก็กฮวย แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยให้สดชื่น ลดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเพราะอากาศร้อน ส่วนผสมของน้ำเก็กฮวย มีดอกเก็กฮวยแห้ง 30 กรัม น้ำเปล่า 1 ลิตร และน้ำตาลทรายแดง วิธีทำก็คล้ายๆ กับน้ำกระเจี๊ยบ นำดอกเก็กฮวยแห้งมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วใส่หม้อต้มเคี่ยวประมาณ 5 นาที เติมน้ำตาลทรายแดงชิมรสตามชอบใจ แค่นี้ก็จะได้น้ำเก็กฮวยสีเหลืองอ่อนรสหวานเย็น หากต้องการให้น้ำสีเหลืองอ่องน่าดื่มยิ่งขึ้น ให้ใส่เมล็ดพุดจีนต้มเคียว แค่นี้ก็จะทำให้น้ำเก็กฮวยมีสีสันมากขึ้น

น้ำว่านหางจระเข้ ช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีและท้องไม่ผูก น้ำดื่มสมุนไพรชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนนอนดึกและอ่อนเพลีย
ส่วนผสมก็มี ใบว่านหางจระเข้ 2 ใบ น้ำต้มสุก 1 ถ้วย และน้ำเชื่อม วิธีทำก็ไม่ยาก นำใบว่านหางจระเข้ขนาดใหญ่และโตเต็มที่มาปอกเปลือกและล้างน้ำให้หมดยางสีเหลือง จากนั้นนำไปใส่เครื่องปั่น เติมด้วยน้ำสุก และปั่นให้ละเอียด นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง เติมน้ำเชื่อมเล็กน้อย และนำมาใส่ขวดที่นึ่งแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น น้ำว่านหางจระเข้นี้ควรทำเก็บไว้ดื่มไม่เกิน 2 วัน

น้ำบัว เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้ ได้มาจากรากบัวต้มกับน้ำ ใช้ดื่มเพื่อดับกระหาย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณแก้ท้องร่วง แก้ร้อนใน ขับเสมหะ และบำรุงกำลัง ส่วนผสมประกอบด้วย รากบัว 2 ถ้วย น้ำสะอาด 3 ถ้วย และน้ำตาลทรายแดงตามชอบ สามารถทำได้โดยนำรากบัวมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วฝานเป็นชิ้นบางๆ นำไปต้มกับน้ำแล้วเคี่ยวจนกระทั่งได้น้ำเป็นสีชมพู แล้วกรองเอากากออก คนที่ชอบหวานก็ให้เติมน้ำตาลทรายแดงเล็กน้อยลงไป จากนั้นนำไปตั้งไฟจนเดือด ชิมรสชาติตารมชอบใจ ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นก่อนนำไปบรรจุขวดที่สะอาดและนึ่งเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีก่อนนำไปเก็บในตู้เย็นเพื่อใช้รับประทานเมื่อเกิดอาการร้อนใน หรือกระหายน้ำ

น้ำว่านกาบหอย ทำมาจากใบว่านกาบหอย ใช้ดื่มเพื่อแก้ร้อนใน กระหายน้ำ และยังแก้ฟกช้ำภายในได้ด้วย ส่วนผสมก็มี ใบว่านกาบหอย 5-15 ใบ น้ำสะอาด 2 ถ้วยครึ่ง และน้ำตาลทราย นำใบว่านกาบหอยสดมาล้างให้สะอาด แล้วนำมาหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นให้นำมาใส่ลงในหม้อน้ำเดือด ต้มให้เดือดประมาณ 3-7 นาที แล้วค่อยเติมน้ำตาลทรายลงไปตามชอบใจ แค่นี้ก็จะได้น้ำว่านกาบหอยสีชมพูอ่อน จากนั้นให้นำมากรองใส่ขวดที่นึ่งแล้ว ตั้งทิ้งไว้ประมาร 20-30 นาทีแล้วค่อยนำไปเก็บในตู้เย็นไว้ดื่ม

น้ำบัวบก เครื่องดื่มสมุนไพรชนิดนี้เป็นที่รู้จักกันดี ช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ เกือบทุกคนจะนึกถึงน้ำใบบัวบก น้ำสมุนไพรนี้ได้มาจากใบบัวบกสด มีสรรพคุญแก้เจ็บคอ กระหายน้ำ แก้ช้ำใน ทำให้สดชื่น และยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ด้วย ส่วนผสมก็มีใบบัวบกสด 2 ถ้วย น้ำสะอาด 2 ถ้วย และน้ำเชื่อม วิธีทำก็คือ นำใบบัวบกสดๆ ใหม่ มาล้างให้สะอาด แล้วนำไปสับหรือตำให้ละเอียด จากนั้นนำมากรองด้วยผ้าขาวบาง สำหรับคนที่ชอบรสหวานก็ให้เติมน้ำเชื่อมลงไปนิดหน่อย แค่นี้ก็จะได้น้ำใบบัวบกสีเขียวใสน่ารับประทาน เวลารับประทานจะใส่น้ำแข็งลงไปนิดหน่อยก็จะช่วยให้สดชื่นมากยิ่งขึ้น

ส่วนผสมง่ายๆ วิธีทำง่ายๆ แถมยังใช้เวลาไม่มากและไม่ยุ่งยากอะไร แค่นี้ก็จะได้เครื่องดื่มสมุนไพรแก้กระหาย คลายร้อน ช่วยลดอุณหภูมิภายในร่างกายที่พุ่งสูงในหน้าร้อนเช่นนี้ แถมยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายในด้านอื่นๆ ด้วย แต่สิ่งที่อยากเตือนไว้ก็คือ น้ำดื่มสมุนไพรเหล่านี้ไม่ควรทำเก็บไว้นานนัก หากแต่ควรทำดื่มเป็นครั้งๆ ซึ่งจะทำให้ได้ทั้งคุณค่าอาหาร และความหอมสดๆ ใหม่ๆ ซึ่งจะช่วยให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้นด้วย


ขอบคุณข้อมูลจาก บทความนี้มาจาก สมุนไพร-->สมุนไพรดอทคอม
http://www.samunpri.com
URL สำหรับเรื่องนี้คือ:
http://www.samunpri.com/modules.php?name=News&file=article&sid=122

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

ประโยชน์ของน้ำผึ้ง

คุณค่าสารพัดประโยชน์ของน้ำผึ้ง งานวิจัยพบว่าน้ำผึ้งแท้สามารถบรรเทาอาการไอจากหวัดได้ดีกว่ายาแก้ไอที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป ช่วยให้นอนหลับง่ายในเด็กที่ป่วยเป็นหลอดลมส่วนบนติดเชื้อ ซึ่งเป็นงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สเตท (The Pennsylvania State University) ประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับ งานวิจัยชิ้นนี้เป็นการศึกษาเปรียบเทียบระหว่างประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการ ไอของน้ำผึ้งกับยาแก้ไอสามัญ dextromethorphan (DM) ที่อนุญาตให้จำหน่ายตามร้านขายยาและใช้กันมากที่สุด

อย่างไรก็ดี นักวิจัยกล่าวว่า น้ำผึ้งนั้นไม่ควรใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบ และน้ำผึ้งที่ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สเตท นี้ศึกษาเป็นน้ำผึ้งชนิดสีเข้มซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระด้วย และนักวิจัยระบุว่าเหตุที่น้ำผึ้งสามารถช่วยบรรเทาอาการไอได้นั้นก็เพราะว่า มันทำให้ลื่นคอและรู้สึกผ่อนคลายที่ลำคอ

ตอกย้ำให้เห็นชัดเจนเป็นรูปธรรมว่า น้ำผึ้งสามารถลดการไอได้จริง สำหรับคนไทยอาจใช้น้ำผึ้งผสมน้ำมะนาวบรรเทาอาการไอ ในเรื่องการแก้ไอของน้ำผึ้ง นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพแนะนำให้

ผสมน้ำผึ้ง 3 - 4 ส่วนกับน้ำมะนาว 1 ส่วน ควรเคี่ยวน้ำผึ้งบนเตาไฟให้เดือดก่อน เมื่อปล่อยให้เย็นแล้วค่อยเติมน้ำมะนาวลงไป สามารถเก็บใส่ขวด แบ่งจิบแก้ไอได้บ่อย ๆ เหมาะสำหรับคนทุกวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก และผู้ที่มีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย นอกจากใช้แก้ไอแล้ว ยังให้พลังงานแก่ร่างกายแทนข้าวได้อีกด้วย และคุณหมอยังได้แนะไว้ว่า...

"น้ำผึ้งมีขายในท้องตลาดหลายยี่ห้อ เช่น น้ำผึ้งจากเกสรลำไย เกสรลิ้นจี่ ดอกทานตะวัน ดอกสาบเสือ เป็นต้น ในแต่ละชนิดสีสันแตกต่างกันไป ที่สำคัญพยายามหลีกเลี่ยงน้ำผึ้งปลอม หรือน้ำผึ้งที่ผสมน้ำตาลทราย เพราะน้ำผึ้งปลอมใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ไม่ได้"

สำหรับน้ำผึ้งผสม (น้ำ) มะนาวนี้ นอกจากจะแก้ไอได้แล้วบางคนยังนำมาพอกหน้าด้วย เขาบอกว่าจะทำให้ใบหน้าสดชื่น เปล่งปลั่ง นุ่มนวล ผ่องใส...แต่ต้องเป็นน้ำผึ้งแท้นะ เพราะหากเป็นน้ำผึ้งปลอมที่เพียงแต่เปิดฝาขวดออกมา มีกลิ่นน้ำอ้อยโชยมาแตะจมูกละก็...มิใช่น้ำผึ้งแท้อย่างแน่นอน

น้ำผึ้งแท้และมีคุณภาพดีจะดูอย่างไร มีวิธีมาบอก โดย หทัยพร ศิรินามารัตนะ แห่งภาควิชาเภสัชเวท คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร บอกไว้ว่า

น้ำผึ้งที่ดีควรมีกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ระบุไว้บนฉลากข้างขวดน้ำผึ้ง เช่น น้ำผึ้งลำไยก็ควรมีกลิ่นของลำไย เป็นต้น น้ำผึ้งต้องมีความหนืด แม้ในอากาศร้อนหรืออุณหภูมิห้อง น้ำผึ้งที่ดีต้องมีสีอ่อนตามธรรมชาติที่ได้เก็บเกี่ยวมา ถ้าน้ำผึ้งมีสีเข้มมากจนดำ แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งที่เก็บมานานแล้ว ซึ่งน้ำผึ้งที่เก็บมานานจะมีคุณประโยชน์ลดลงเรื่อย ๆ

ดังนั้นควรดูวันหมดอายุที่ข้างขวด แต่อาจเป็นข้อมูลที่ไม่เที่ยงตรงนัก เพราะน้ำผึ้งอาจถูกเก็บไว้นานเป็นปีก่อนนำมาขาย น้ำผึ้งที่ดีต้องไม่แยกชั้น ต้องอยู่เป็นเนื้อเดียวกัน แม้ในบางครั้งอาจพบน้ำผึ้งเกิดการตกผลึกได้เนื่องจากน้ำผึ้งที่ได้จากการ เลี้ยงด้วยดอกไม้ต่างชนิดกัน แต่น้ำผึ้งแท้ที่ตกผลึกนั้นจะมีผลึกเป็นแท่งเหลี่ยมแหลมเปราะบาง และถ้าน้ำผึ้งนั้นตกผลึกทั้งขวดจะมองเห็นสีผลึกเป็นสีเดียวกันทั้งขวดไม่เป็นสีเข้มปนสีอ่อนตกผลึกอยู่ที่ก้นขวด เหนือผลึกขึ้นมาเป็นของเหลวเป็นส่วนมากและสีของเหลวนั้นมักมีสีเข้มกว่าผลึกอย่างเห็นได้ชัด

เราจะเรียกน้ำผึ้งลักษณะนี้ว่า ผึ้งตกตะกอน และสามารถทดสอบน้ำผึ้งที่ตกตะกอนนี้ได้โดยการนำน้ำผึ้งมาแช่ตู้เย็นจะเห็น ได้ชัดเจนและรวดเร็วขึ้น น้ำผึ้งต้องสะอาดไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ถ้ามีแสดงว่าวิธีการเก็บเกี่ยวไม่ดี ดูแล้วไม่น่าบริโภค ถ้าดูน้ำผึ้งไม่เป็นเลยก็อาจดูจากฉลาก บริษัทผู้ผลิตว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาหรือไม่ ซึ่งเป็นแนวทางในการเลือกซื้อน้ำผึ้งได้

"น้ำผึ้ง" ที่ คนทั่วไปอาจมองแต่เพียงด้านเดียวคือให้คุณประโยชน์ในด้านความหวาน ต่อไปนี้คงได้เห็นถึงคุณค่าและรู้จักใช้ประโยชน์จากน้ำผึ้งให้มากยิ่งขึ้น

ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ จาก http://dhammasatta.igetweb.com/index.php?mo=14&newsid=78435